เคล็ดลับ! วิธีแก้เท้าเหม็นแบบธรรมชาติ เหงื่อออกมากจากการใส่รองเท้า แก้ได้ไม่ยาก

“หน้าตาสวยเท่เก๋ แต่งตัวดูดี แต่ถอดรองเท้าทีนี่แหม แทบจะสลบ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ”

ปัญหาเท้าเหม็นเป็นเรื่องที่ต้องดูแลกันอย่างจริงจังแล้วล่ะค่ะ เพราะขืนปล่อยเอาไว้ไม่จัดการแล้วล่ะก็ เสียบุคลิกแน่นอน แถมส่งกลิ่นให้คนรอบข้างแตกตื่นอีกด้วย เวลาที่เราอยู่ออฟฟิตหรือตอนเดินทางขึ้นรถประจำทาง

กลิ่นเท้าเหม็นเกิดจากอะไร?

ส่วนใหญ่คนที่มีปัญหาเท้าเหม็นนั้นจะเกิดจากเหงื่อที่ออกบริเวณเท้าของเรา โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อน เหงื่อก็จะออกเยอะเช่นกัน และหากต้องสวมรองเท้าที่มิดชิดตลอดทั้งวัน เช่น รองเท้ากีฬา รองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าทำงานต่างๆ แล้วล่ะก็ ยิ่งไม่ได้ระบายก็ยิ่งเหม็นอับไปกันใหญ่เลยล่ะ

วิธีแก้เท้าเหม็นแบบง่ายๆ ด้วยตนเอง

ดูแลรักษาเท้าให้สะอาดอยู่เสมอ

ยิ่งหากต้องสวมรองเท้าที่ปกปิดมิดชิดเป็นประจำทั้งวันแล้วล่ะก็ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ล้างเท้าให้สะอาด แช่เท้าในน้ำอุ่นสักประมาณ 15 – 20 นาที แล้วใช้แปรงผสมสบู่ขัดเอาสิ่งสกปรกออก ล้างน้ำออกให้สะอาด และที่สำคัญอย่าลืมเช็ดให้แห้งทุกซอกทุกมุมด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นที่ทำมาก็จะเสียเปล่าไปซะ

ลองเปลี่ยนถุงเท้า

ส่วนนึงของกลิ่นมาจากถุงเท้านี่แหละ ลองเปลี่ยนมาใช้ถุงเท้าที่ไม่ใช่ผ้าฝ้าย 100% ดู เพราะจะทำให้ระบายอากาศได้ดีขึ้น ไม่อับชื้น และอย่าลืมดูแลความสะอาดของถุงเท้า ถุงน่องด้วยนะคะ ไม่ควรใส่ซ้ำ ถ้าใส่ทั้งวัน แค่วันเดียวก็ควรซักได้แล้วจ้า

ระบายอากาศให้แก่เท้า

ในระหว่างวัน ถอดรองเท้าบ้างเพื่อลดการอับชื้น แต่ต้องแน่ใจด้วยนะคะว่าจะไม่ส่งกลิ่นรบกวนคนรอบข้าง เอาแบบว่า ไปถอดในที่รโหฐาน ที่ส่วนตัวก็แล้วกันเนอะ

สำรวจแผลเรื้อรังที่เท้า

ถ้าเท้ามีแผลก็อาจเป็นสาเหตุของกลิ่นได้ เพราะฉะนั้นเมื่อพบว่ามีแผลที่เท้า ต้องรีบรักษาให้หายโดนด่วนเลย

ขนาดของถุงเท้าและรองเท้า

หากถุงเท้าและรองเท้านั้นคับหรือพอดีจนเกินไป จะทำให้เท้าไม่ได้รับการระบายเท่าที่ควร กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็จะตามมาได้

สลับหรือเปลี่ยนรองเท้าบ้าง

ก็เข้าใจนะคะว่าเราต้องมีรองเท้าคู่เก่ง แต่ถ้าต้องใส่ทุกวันไม่ได้พักกลิ่นเลยก็ไม่ไหว ยิ่งเวลาฝนตกเราต้องย่ำน้ำที่ขัง หรือออกกำลังแล้วเหงื่อออกจนรองเท้าชุ่ม ฉะนั้นหาคู่สำรองมาอีกสัก 1-2 คู่ เพื่อสลับกันใส่บ้าง

โรยแป้งหรือผงดับกลิ่น

ใช้แผ่นสมุนไพร สเปยร์ดับกลิ่น หรือแป้งทาตัวมาเทใส่รองเท้าก็ช่วยลดกลิ่นอับและระงับแบคทีเรียได้ สิ่งเหล่านี้หาซื้อได้ง่ายมีขายตามร้านทั่วไปเลยค่ะ

ทำความสะอาดรองเท้าอย่างสม่ำเสมอ

ถ้าเป็นรองเท้าผ้าใบควรนำไปซักบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หากเป็นรองเท้าหนังหรือคัทชูใส่ทำงาน ให้นำออกไปตากแดด จะช่วยลดกลิ่นอับและความชื้นได้

เก็บรองเท้าใส่ตู้ให้เรียบร้อย

เลือกตู้รองเท้าที่ระบายอากาศ และไม่มีช่องให้สัตว์ตัวเล็กๆ เข้าไปทำรังอาศัยอยู่ เมื่อกลับถึงบ้านแล้วให้นำรองเท้าใส่ตู้ทุกครั้ง ไม่ควรวางไว้ด้านนอก เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์มาทิ้งกลิ่นสาบไว้ในรองเท้าเราได้ บางตัวกลิ่นนี่แรงมาก และหาสมุนไพรไปวางในตู้เพื่อช่วยดับกลิ่นอีกทาง

สารส้มดับกลิ่นเท้า

ใช้สารส้ม 1 ก้อน มาขัดถูให้ทั่วบริเวณเท้า ทั้งง่ามเท้า ฝ่าเท้า ส้นเท้า หลังเท้า เนื่องสารส้มเป็นยาระงับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี

น้ำส้มสายชูแก้เท้าเหม็น

ให้นำน้ำส้มสายชูประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ ผสมลงในน้ำอุ่น จากนั้นนำเท้าไปแช่ไว้สักครู่ เมื่อรู้สึกว่าเท้าสะอาดขึ้นแล้ว จากนั้นให้ทำการขัดถูทั่วทั้งเท้าอย่างเบาๆ โดยเน้นไปที่บริเวณฝ่าเท้า ผิวหนังส่วนเกินที่เป็นจุดสะสมแบคทีเรียจะค่อยๆหลุดลอกออกไป

มะนาวขจัดกลิ่นเท้า

ใช้น้ำมะนาว 1 ถ้วย ผสมกับน้ำอุ่น จากนั้นนำเท้าไปแช่ประมาณ 15-20นาที เสร็จแล้วล้างเท้าให้ะอาดและซับเท้าให้แห้ง ทำเป็นประจำทุกวัน กลิ่นจากเท้าจะค่อยๆจางหายไป ทั้งนี้เป็นเพราะในมะนาวนั้นจะมีกรดซิตริกอยู่ กรดนี้จะคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เท้าได้ ช่วยให้กลิ่นเท้าไม่พึงประสงค์ค่อยๆหายไป นอกจากนี้มะนาวยังมีส่วนช่วยให้รูขุมขนที่เท้ากระชับขึ้น ปรับสมดุลการไหลของเหงื่อบริเวณเท้าได้เป็นอย่างดี

เบกกิ้งโซดาแก้เท้าเหม็น

นอกจากมะนาวแล้ว เบคกิ้งโซดาก็มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดีไม่แพ้กัน เพียงนำเบคกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น 10 ถ้วย คนจนกว่าเบคกิ้งโซดาจะละลายหมด จากนั้นนำเท้าลงไปแช่ประมาณ 15-20 นาที ขัดเท้าอย่างเบาๆ กลิ่นเท้าก็จะจจางหายไป

ต้องบอกเลยว่าหากต้องการแก้ปัญหาเท้าเหม็นอย่างถาวร ควรปฏิบัติตามทุกข้อ ไม่ควรเลือกทำข้อใดข้อหนึ่ง เพราะถ้าเลือกทำเพียงข้อเดียวก็เหมือนแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ กลิ่นเท้าก็ไม่มีวันหายแน่นอนค่ะ