หน้าแรก สุขภาพร่างกาย 8 เคล็ดลับ วิธีรักษาฝ้าแดด กระ ลบเลือนจุดด่างดำด้วยตัวเองอย่างได้ผล

8 เคล็ดลับ วิธีรักษาฝ้าแดด กระ ลบเลือนจุดด่างดำด้วยตัวเองอย่างได้ผล

8 เคล็ดลับ วิธีรักษาฝ้าแดด กระ ลบเลือนจุดด่างดำด้วยตัวเองอย่างได้ผล

ฝ้าๆๆ เป็นแล้วหายยากจริงอะไรจริง รักษายังไงให้หายขาดดีนะ

อ๊ะ! เดี๋ยวค่ะ ก่อนอื่นเลย มารู้จักกับฝ้าคร่าวๆ กันก่อนดีกว่าไหมคะ  ถ้าจะอธิบายก็คือ

“ฝ้าเกิดจากผิวหนังที่มีเม็ดสีมากเกินไปนั่นเอง”

A: แล้วทำไมถึงต้องสร้างเม็ดสีมากเกินไปหละ?

Q: เพราะคนๆ นั้น ออกแดดโดยไม่ปกป้องด้วยอะไรเลยยังไงล่ะคะ ทั้งครีมกันแดด หมวก ร่ม ก็ไม่มี ร่างกายเลยต้องดูแลตัวเองด้วยการสร้างเม็ดสีขึ้นมาเพื่อปกป้องผิวยังไงล่ะ

แหม! เจ้าผิวหนังตัวร้าย

เดี๋ยว! แบบนี้ใครกันที่ผิด บอกมาซิ ?

“……..”

แต่ช่างเถอะค่ะ หมดเวลาจะหาคนผิดกันแล้ว ตอนนี้เรามาดูวิธีรักษาฝ้ากันเลยดีกว่า ไหนๆ ฝ้าก็ผุดขึ้นมาแล้วนี่นะ โทษใครไปก็เท่านั้น

วิธีการรักษาฝ้า

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ในเมื่อฝ้าเกิดจากพฤติกรรมของเราเอง ถ้าจะแก้ ก็ต้องเริ่มแก้จากพฤติกรรมนั่นล่ะค่ะ

  1. ทาครีมกันแดดทุกครั้ง ไม่ว่าจะออกแดดหรือไม่
  2. ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของครีมกันแดดด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกันแดด
  3. เป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ คือตั้งแต่เวลา 9.00 – 16.00 น. ค่ะ แต่หากเลี่ยงไม่ได้

ให้ใส่แว่นตา พกร่มหรือสวมหมวกทุกครั้ง เพื่อปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด

เสริมการบำรุง

ต่อไปคือวิธีการรักษาฝ้า ค่อยๆ ทำไปตามขั้นตอนนะคะ

  1. มาส์กหน้าด้วยวิธีธรรมชาติ

สูตรมะนาว นำมะนาวฝานออกเป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาถูกบริเวณใบหน้าจุดที่เป็นฝ้า ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด วิตามินซีจากมะนาวจะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยฝ้าค่อยๆจางลง ระยะเวลาเห็นผลจะอยู่ที่ประมาณ 1 เดือน

สูตรหัวไชเท้า นำหัวไชเท้าล้างบดให้ละเอียด ประมาน 10 – 15 นาที สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง จะช่วยทำให้รอยฝ้าจางลงได้บ้าง แต่ไม่แนะนำสำหรับคนผิวแพ้ง่ายนะคะ เพราะอาจแสบได้

สูตรมะขามเปียก นำมะขามเปียกมาพอกหรือทาบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 5 – 10 นาที แล้วล้างออก มะขามเปียกจะช่วยผลัดเซลล์ผิวทำให้ฝ้าดูจางลงได้

สูตรใบบัวบก นำใบบัวบกมาปั่นแล้วคั้นเฉพาะน้ำมาเช็ดแทนโทนเนอร์ทุกวันเป็นประจำ

  1. ทานวิตามินเพื่อบำรุงจากภายใน ได้แก่ วิตามินเอ ซี อี ซึ่งจะทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและป้องกันไม่ให้ฝ้าขยายตัวขึ้นอีกด้วย
  2. เลือกใช้ครีมรักษาฝ้า เลือกที่มีส่วนผสมของ HAH วิตามินซี อาร์บูติน (Arbutin) กรดโคจิก (Kojic)
  3. ลอกฝ้าด้วยกรด TCA กรด AHA วิธีนี้แนะนำให้ไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกค่ะ เป็นวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัยแม้จะเห็นผลช้าหน่อย แต่ก็คุ้มค่ะ
  4. ทานยารักษาฝ้า (Tranexamic acid) ในส่วนของการทานยานั้น อาจมีผลข้างเคียงต่อร่างกาย เพราะฉะนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนทานยาใดๆ ค่ะ

สาวๆ ที่เกิดฝ้าบนผิวหน้าแล้ว ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ลองนำวิธีรักษาฝ้าที่แนะนำไปใช้กันดู เผื่อหน้าจะกลับมาสวยใสเหมือนเดิมเนอะ

อัพเดทความรู้รอบตัวใหม่ๆทาง Facebook คลิกเลย!!