ฝ้าๆๆ เป็นแล้วหายยากจริงอะไรจริง รักษายังไงให้หายขาดดีนะ
อ๊ะ! เดี๋ยวค่ะ ก่อนอื่นเลย มารู้จักกับฝ้าคร่าวๆ กันก่อนดีกว่าไหมคะ ถ้าจะอธิบายก็คือ
“ฝ้าเกิดจากผิวหนังที่มีเม็ดสีมากเกินไปนั่นเอง”
A: แล้วทำไมถึงต้องสร้างเม็ดสีมากเกินไปหละ?
Q: เพราะคนๆ นั้น ออกแดดโดยไม่ปกป้องด้วยอะไรเลยยังไงล่ะคะ ทั้งครีมกันแดด หมวก ร่ม ก็ไม่มี ร่างกายเลยต้องดูแลตัวเองด้วยการสร้างเม็ดสีขึ้นมาเพื่อปกป้องผิวยังไงล่ะ
แหม! เจ้าผิวหนังตัวร้าย
เดี๋ยว! แบบนี้ใครกันที่ผิด บอกมาซิ ?
“……..”
แต่ช่างเถอะค่ะ หมดเวลาจะหาคนผิดกันแล้ว ตอนนี้เรามาดูวิธีรักษาฝ้ากันเลยดีกว่า ไหนๆ ฝ้าก็ผุดขึ้นมาแล้วนี่นะ โทษใครไปก็เท่านั้น
วิธีการรักษาฝ้า
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ในเมื่อฝ้าเกิดจากพฤติกรรมของเราเอง ถ้าจะแก้ ก็ต้องเริ่มแก้จากพฤติกรรมนั่นล่ะค่ะ
- ทาครีมกันแดดทุกครั้ง ไม่ว่าจะออกแดดหรือไม่
- ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของครีมกันแดดด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกันแดด
- เป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ คือตั้งแต่เวลา 9.00 – 16.00 น. ค่ะ แต่หากเลี่ยงไม่ได้
ให้ใส่แว่นตา พกร่มหรือสวมหมวกทุกครั้ง เพื่อปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด
เสริมการบำรุง
ต่อไปคือวิธีการรักษาฝ้า ค่อยๆ ทำไปตามขั้นตอนนะคะ
- มาส์กหน้าด้วยวิธีธรรมชาติ
สูตรมะนาว นำมะนาวฝานออกเป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาถูกบริเวณใบหน้าจุดที่เป็นฝ้า ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด วิตามินซีจากมะนาวจะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยฝ้าค่อยๆจางลง ระยะเวลาเห็นผลจะอยู่ที่ประมาณ 1 เดือน
สูตรหัวไชเท้า นำหัวไชเท้าล้างบดให้ละเอียด ประมาน 10 – 15 นาที สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง จะช่วยทำให้รอยฝ้าจางลงได้บ้าง แต่ไม่แนะนำสำหรับคนผิวแพ้ง่ายนะคะ เพราะอาจแสบได้
สูตรมะขามเปียก นำมะขามเปียกมาพอกหรือทาบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 5 – 10 นาที แล้วล้างออก มะขามเปียกจะช่วยผลัดเซลล์ผิวทำให้ฝ้าดูจางลงได้
สูตรใบบัวบก นำใบบัวบกมาปั่นแล้วคั้นเฉพาะน้ำมาเช็ดแทนโทนเนอร์ทุกวันเป็นประจำ
- ทานวิตามินเพื่อบำรุงจากภายใน ได้แก่ วิตามินเอ ซี อี ซึ่งจะทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและป้องกันไม่ให้ฝ้าขยายตัวขึ้นอีกด้วย
- เลือกใช้ครีมรักษาฝ้า เลือกที่มีส่วนผสมของ HAH วิตามินซี อาร์บูติน (Arbutin) กรดโคจิก (Kojic)
- ลอกฝ้าด้วยกรด TCA กรด AHA วิธีนี้แนะนำให้ไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกค่ะ เป็นวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัยแม้จะเห็นผลช้าหน่อย แต่ก็คุ้มค่ะ
- ทานยารักษาฝ้า (Tranexamic acid) ในส่วนของการทานยานั้น อาจมีผลข้างเคียงต่อร่างกาย เพราะฉะนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนทานยาใดๆ ค่ะ
สาวๆ ที่เกิดฝ้าบนผิวหน้าแล้ว ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ลองนำวิธีรักษาฝ้าที่แนะนำไปใช้กันดู เผื่อหน้าจะกลับมาสวยใสเหมือนเดิมเนอะ