อาการหูอื้อ มักจะเกิดขึ้นกับใครหลายๆ คน โดยเฉพาะเวลาที่คุณนั่งรถขึ้นที่สูง ขึ้นลิฟต์หรือขึ้นไปท่องเที่ยวบนภูเขาสูง บางครั้งคุณอาจมีอาการหูอื้อขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ความผิดปกติเหล่านี้เกิดจากสาเหตุใด มีวิธีแก้อาการหูอื้อหรือไม่ เรามาหาคำตอบในเรื่องนี้ไปพร้อมๆ กันค่ะ
อาการหูอื้อเกิดจากสาเหตุใด
หูอื้อ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ลักษณะอาการจะทำให้การได้ยินลดลง รู้สึกคล้ายมีอะไรอยู่ในหู เช่น มีเสียงดังคล้ายเสียงลมพัด คล้ายเสียงแมลง หรือเสียงดังตุบๆ อยู่ในหู ซึ่งอาการนี้มักเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
- เกิดจากภาวะความเจ็บป่วยหรือมีโรคประจำตัว
- เกิดจากประสาทหูเสื่อม
- เกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะที่มีผลข้างเคียงต่อประสาทหู
- เกิดจากโรคความผิดปกติของหูชั้นนอก หรือหูชั้นกลาง
- เกิดจากโรคภูมิแพ้
- เกิดจากการฟังเสียงดัง หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีเสียงดัง โดยไม่มีเครื่องป้องกัน
วิธีป้องกันอาการหูอื้อ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังเป็นเวลานานๆ โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ที่อุดหู
- ควบคุมโรคประจำตัว ดูแลรักษาและทานยาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เพื่อป้องกันอาการหูอื้อที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
- เมื่ออยู่ในภาวะเครียด ต้องหาวิธีผ่อนคลายและรักษาสุขภาพจิต งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ทำความเข้าใจและยอมรับ เพราะอาการหูอื้อไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่เป็นอาการที่ทำให้เกิดความรำคาญ หงุดหงิด และอาจทำให้เกิดภาวะเครียด นอนไม่หลับ ส่งผลให้อาการหูอื้อรุนแรงมากขึ้น
วิธีแก้อาการหูอื้อ
- กรณีหูอื้อที่ไม่มีอาการมาก่อน แต่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน อาจเกิดจากมดหรือแมลงเข้าหู ให้ใช้น้ำมันมะกอก หรือออยล์ หยอดหู แล้วไปพบแพทย์
- กรณีหูอื้อ และมีอาการปวดหูเวลาดึงหรือสัมผัสใบหู คันในหู มีอาการไข้ร่วมด้วย ให้ใช้สำลี หรือใช้คัตตอนบัดส์ชุบน้ำแล้วเช็ดบริเวณปากช่องหูเพื่อทำความสะอาดที่อาจมีสิ่งสกปรกค้างทำให้เกิดอาการอักเสบ
- กินยาพาราเซตามอล เพื่อแก้ปวดลดไข้
- ไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
อาการหูอื้อทั้งที่รุนแรงและไม่รุนแรง นอกจากเป็นปัญหาสุขภาพแล้วยังรบกวนต่อคุณภาพการใช้ชีวิต โดยเฉพาะในการสื่อสารกับบุคคลอื่นๆ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดน้อยลง ดังนั้นเมื่อมีอาการหูอื้อแบบผิดปกติ ซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อทำการรักษาให้การได้ยินกลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง